วันจันทร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2554

ชีวิตช่วงซัมเมอร์ ม.5 ขึ้น ม.6


ถ้าพูดถึงเรื่องเรียนซัมเมอร์นะเหรอ หึ หึ เด็กนักเรียนที่จะก้าวเข้าสู่รั่วมหาวิทยาลัยทุกคนคงต้องเคยผ่านกันมาบ้าง การเรียนซัมเมอร์ฟังดูอาจจะเป็นเรื่องติดหรู ที่ลูกคนมีเงินทั้งหลายแหล่ ชอบพูดคุยกัน ไม่ว่าจะเป็นไปเรียนที่อังกฤษบ้างล่ะ ฝรั่งเศษบ้างล่ะ แล้วคนจนๆอย่างเราล่ะเราคงจะไม่มีปัญญาหอบตัวเองไปอย่างเขาได้หรอก อย่างมากก็ไปได้แค่ดอนเมือง ดังนั้นเราก็ต้องหาที่เรียนพิเศษใกล้ๆบ้าน ราคาย่อมเยาว์แต่ขอเรียกให้ดูหรูว่า เรียน Summer ก็แล้วกัน








ถึงจะเรียนใกล้บ้านก็จริง แต่ค่าเดินทางไป-กลับสำหรับ 4 วัน จันทร์-พฤหัสฯ ก็ไม่ใช่น้อย ผมกับเพื่อนๆ จึงต้องมองหาบ้านเช่าที่ใกล้กับที่เรียน ซึ่งเราก็ได้ตกลงเช่าบ้านพักแถวๆหมู่บ้านดิลก ห่างจากที่ประมาณกิโลกว่าๆ เหมาะแก่การเดินไปเรียน (รึเปล่า) แต่ก็เอาเป็นว่าบ้านหลังนี้เหมาะมากเพราะใกล้กับตลาดและร้านสะดวกซื้อ แถวบ้านก็เงียบ (เมื่อเรามาแล้วก็ไม่เงียบ) อีกอย่างมีที่ออกกำลังกาย นั่งรับลม อย่างสระพังทองที่ห่างออกจากตัวบ้าน 2 กม. (เดินจนขาลากเลยล่ะ) แต่ก็ไม่ค่อยได้มีโอกาสเท่าไหร่ เพราะเมื่อเรียนเสร็จกลับถึงบ้าน ก็แทบคลาน แต่เมื่อได้ไปแล้วก็เต็มที่หน่อย (ถ่ายรูปนะที่เต็มที่) ลมเย็นและอากาศก็บริสุทธิ์มาก









ส่วนเรื่องอาหารการกิน อย่าให้พูดเลยแต่พูดหน่อยก็ได้ มันเป็นอะไรที่แบบ........อ้วนนะ! ศูนย์ของไขมัน เรียกได้ว่าเพิ่มขึ้นคนละหลายกิโลเลยก็ว่าได้ แม่ครัวก็แถวๆนี้แหละ






















แต่ใช่ว่าเรื่องอาหารจะจบแค่นี้นะ เรายังมีอาหารมื้อใหญ่ที่ไม่เล่าไม่ได้ นานๆครั้งที่จะได้กินหมูกระทะ แถมเป็นบุพเฟ่อีกต่างหาก เราจึงกระหน่ำไม่มีหยั่ง เรียกว่า พุงกางกลับบ้านเลยทีเดียว ต้องขอขอบพระคุณท่าน อ.เสาวรจนีย์ จันทวงค์ ที่อุปการคุณอาหารมื้อใหญ่ที่แสนจะอร่อยสุดยอด!








พูดถึงเรื่องกินไปแล้ว จะไม่ให้พูดถึงเรื่องนอนได้ยังไง เวลานอนเราก็สบายๆ เพราะห้องนอนมีห้องเดียวอีกอย่างแสนจะแคบ หากนับจำนวนประชากรแล้ว เรามีถึง 12 ชีวิต การที่จะยัดคนทั้งหมดเข้าไปในห้องที่แสนจะเล็กจึงเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นเราจึงแบ่งคนออกเป็นสองกลุ่มคือกลุ่มชาย-หญิง นับไปนับมาผู้ชายมี 4 คน ผู้หญิงมีถึง 8 คน ซึ่ง 8 คนกับห้องที่รูหนูก็ไม่ปานก็ยังไม่ได้อยู่ดี ดังนั้นผู้ชายที่มีเพียงน้อยนิดจึงสละตัวเอง (พูดอย่างวีรบุรุษ) เข้าไปนอนในห้อง แล้วให้ผู้หญิงนอนหน้าห้อง (ขอถอนคำพูด) ความจริงแล้วผมเองก็ไม่ได้อยากทำอย่างนี้เลย แต่มันจำเป็น (เหรอ)

























แต่ก็เอาเป็นว่าเราทุกคนสนิทกันดี มีความจริง เรื่องชีวิตของการเรียนซัมเมอร์ก็ยังคงดำเนินต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น: